เปิดฮาวทู เตรียมตัวเลี้ยงแมวฉบับทาสเหมียวมือใหม่!
ใครที่กำลังวางแผนอยากจะเลี้ยงแมวฟังทางนี้! ถึงแม้ว่าการรับเลี้ยงน้องแมวสักตัวจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ต้องเข้าใจเป็นพิเศษคือการทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกเขา รวมถึงการเตรียมความพร้อมทั้งด้านสถานที่ ข้าวของเครื่องใช้ และการดูแลด้านสุขภาพของน้องแมวในระยะยาว ใครที่มั่นใจแล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่มีความพร้อม บทความนี้มีข้อแนะนำดี ๆ ในการเตรียมตัวเลี้ยงแมวมาฝากทาสมือใหม่กัน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด!
เช็กลิสต์ทาสมือใหม่ รวมเรื่องที่ต้องรู้ในการเตรียมตัวเลี้ยงแมว
เมื่ออยากจะเลี้ยงแมวสักตัว เชื่อว่าเหล่าทาสย่อมต้องการเลี้ยงพวกเขาให้เติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข แต่ก่อนที่เราจะกลายเป็นทาสแมวอย่างสมบูรณ์ เรามี 3 เช็กลิสต์ควรรู้ สำหรับการเตรียมตัวเลี้ยงแมวได้อย่างราบรื่น ติดตามกันเลย
1. เตรียมอาหารสำหรับแมวเด็ก
สิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงแมวเด็ก คืออาหารที่น้องแมวจะต้องได้รับในแต่ละมื้อ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความอิ่มท้องแล้ว ยังมีเรื่องของสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพวกเขา ซึ่งในแต่ละช่วงวัยของน้องแมวจำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง “ลูกแมว” ที่จะต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ โดยควรเน้นไปที่ 3 สารอาหารหลัก ๆ ได้แก่
- โปรตีน ตัวช่วยในการเจริญเติบโตและเพิ่มระดับพลังงานให้กับลูกแมว
- แคลเซียม ส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพฟัน รวมถึงกระดูกให้แข็งแรง
- DHA ตัวช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมองและการมองเห็นให้สมบูรณ์
แต่สำหรับใครที่ซื้อน้องแมวมาจากฟาร์ม อย่าลืมสอบถามเรื่องอาหารที่น้องแมวกินอยู่ก่อนด้วย เพราะการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหันอาจทำให้น้องแมวมีอาการไม่สบาย หรือไม่ยอมกินอาหารได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือการค่อย ๆ ปรับ โดยเริ่มเปลี่ยนอาหารใหม่ทีละนิดเพื่อให้น้องมีเวลาได้ปรับตัว และคุ้นกับอาหารมากขึ้น
2. เตรียมของใช้ที่จำเป็น
เพื่อเตรียมสภาพแวดล้อมให้พร้อมต่อการเลี้ยงลูกแมว ทาสมือใหม่ควรซื้อข้าวของที่จำเป็นเหล่านี้เอาไว้ เพื่อช่วยให้เลี้ยงน้องแมวได้ง่ายยิ่งขึ้น
- กระบะทรายและทรายคุณภาพดี สำหรับใช้ฝึกเป็นห้องน้ำน้องแมว เพื่อป้องกันให้น้อง ๆ ไม่ต้องขับถ่ายเรี่ยราด ที่อาจส่งผลทำให้บ้านมีกลิ่นสาบได้
- ชามอาหารและน้ำ เตรียมตัวเลี้ยงแมวด้วยการเลือกชามอาหารและน้ำที่เหมาะสมกับขนาดตัว เพื่อลดปัญหาความลำบากในการกิน ป้องกันการสำลักน้ำ หรืออาหารติดคอ นอกจากนี้ ควรหมั่นทำความสะอาดทุกวัน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่เป็นพาหะที่อาจทำให้ลูกแมวป่วยได้
- ที่นอน สร้างพื้นที่ส่วนตัวให้ลูกแมว อาจใช้เบาะนอนสำเร็จรูป หรือตัดลังกระดาษง่าย ๆ แล้วปูผ้า ปูเบาะให้พร้อม อย่าลืมใส่สิ่งของที่มีกลิ่นที่น้องแมวคุ้นเคยเอาไว้ด้วย เพื่อกระตุ้นให้น้องแมวอยากใช้ที่นอนใหม่มากขึ้น
- อุปกรณ์ทำความสะอาด อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้กับเหล่าน้องแมวกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แปรงขน รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับแมวเด็กโดยเฉพาะ
- ตะกร้าสำหรับเดินทาง ท้ายที่สุดคืออุปกรณ์ที่คนเตรียมตัวเลี้ยงแมวต้องมี เพราะตะกร้าสำหรับเดินทางจะเริ่มใช้ตั้งแต่วินาทีที่เราออกไปรับลูกแมวออกจากฟาร์ม หรือจากเจ้าของเก่ามาอยู่ที่บ้าน รวมถึงการใช้เดินทางไปพบสัตวแพทย์ รวมถึงใช้พาน้องแมวออกไปเที่ยวข้างนอกด้วย
3. ทำความเข้าใจกับการรับวัคซีนของแมว
เช็กลิสต์สุดท้ายของการเตรียมตัวเลี้ยงแมว คือการทำความเข้าใจกับการรับวัคซีน ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับน้อง ๆ ทั้งยังจะช่วยให้น้องแมวมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงตลอดระยะการเติบโต ที่สามารถช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วย รวมถึงการเป็นโรคติดต่อที่อาจอันตรายถึงชีวิตได้
Q&A เรื่องวัคซีนลูกแมวที่คนเตรียมตัวเลี้ยงแมวต้องรู้!
Q: การฉีดวัคซีนในลูกแมวจำเป็นแค่ไหน?
A: การฉีดวัคซีนในลูกแมว ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะในฐานะเจ้าของน้องแมว จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา รวมถึงเรื่องสุขภาพตลอดการมีชีวิต ดังนั้น การเข้าฉีดวัคซีนตามช่วงวัย จะช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นให้น้องแมวเกิดภูมิคุ้มกัน และสามารถช่วยป้องกันโรคร้ายและโรคติดต่อได้
Q: วัคซีนอะไรบ้างที่จำเป็นต่อลูกแมว?
A: โดยทั่วไปแล้ว โปรแกรมฉีดวัคซีนสำหรับลูกแมวและแมวโตเต็มวัยจะมีการกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าของจะต้องพาไปฉีดให้ตรงตามเวลาที่กำหนด แต่ถ้าถามว่า วัคซีนประเภทไหนที่มีความสำคัญกับน้องแมวบ้างและควรได้รับการฉีดป้องกัน ก็จะมีดังนี้
- วัคซีนโรคหวัดแมว: เกิดจากเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงไวรัสเริมในแมว (FHV) และไวรัสคาลิไซในแมว (FCV) โรคหวัดแมวส่งผลต่อดวงตา ปาก และทางเดินหายใจ
- วัคซีนไวรัสโรคไข้หัดในแมว (FPV): บ่อยครั้งที่การติดเชื้อไวรัสอาจร้ายแรงถึงชีวิต ทำให้มีอาการท้องเสียและอาเจียน
- วัคซีนป้องกันไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว (FeLV): ไวรัสชนิดนี้จะยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันทำให้แมวที่ติดเชื้อมีความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ ได้
Q: ควรเริ่มฉีดวัคซีนให้ลูกแมวเมื่อไหร่?
A: ควรเริ่มฉีดตั้งแต่ช่วง 6-12 สัปดาห์ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของลูกแมวที่ได้จากแม่จะลดต่ำลง ทำให้ไม่สามารถป้องกันโรคได้เอง ดังนั้น เมื่อถึงช่วงระยะเวลาที่กำหนด อย่าลืมพาน้องแมวไปตรวจเช็กสุขภาพกับทางโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิก รวมถึงมองหาแพ็กเกจวัคซีนดี ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายของน้อง ๆ กันด้วย
3 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนพาแมวไปฉีดวัคซีน
ก่อนที่เจ้าของมือใหม่จะพาน้องแมวไปฉีดวัคซีน มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวดังนี้
- ตรวจสอบอายุให้มั่นใจ เพราะวัคซีนเข็มแรกควรอยู่ในช่วงระยะ 6-12 สัปดาห์ หรืออย่างช้าคือช่วงระยะเวลา 2 เดือน
- อาบน้ำก่อนพาไปฉีดวัคซีน เพราะหลังการฉีดวัคซีน แพทย์จะไม่แนะนำให้น้องโดนน้ำหรือทำความสะอาดร่างกายไปอีก 7 วัน
- สร้างความสบายใจให้ลูกแมวก่อนไปฉีดวัคซีน เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไวต่อกลิ่นและหวาดกลัวกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันภาวะเครียด ให้เจ้าของหากระเป๋า ตะกร้า หรือกรงที่คุ้นเคย พร้อมของเล่น เพื่อสร้างความสบายใจให้กับน้องแมวก่อนไปรับวัคซีน
แม้ว่าการดูแลลูกแมวจะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับมือใหม่ แต่ก็คงไม่มากเกินไปสำหรับคนที่พร้อมเป็นทาสแมวแน่นอน แต่หากใครยังกังวล สามารถเตรียมตัวเลี้ยงแมวให้พร้อม กับการมาขอคำปรึกษาได้ที่ PETClub คลับของคนรักสัตว์เลี้ยงที่พร้อมดูแลตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สำหรับลูกแมว ไปจนถึงบริการตรวจสุขภาพและแพ็กเกจวัคซีนแมว (KITTEN Vaccine Package) ราคาดี ๆ ที่ครอบคลุมทุกเข็มสำคัญ พร้อมช่วยดูแลลูกแมวของคุณในทุก ๆ ก้าวของการเติบโต!
เช็คราคาแพ็กเกจวัคซีนลูกแมว “คลิก”
ข้อมูลอ้างอิง:
- Cat Vaccinations - Everything You Should Know. สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.rauanimalhospital.com/services/cats/vaccinations
- มือใหม่เตรียมพร้อมรับเลี้ยงลูกแมวตัวแรก. สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.purina.co.th/articles/cats/kitten/welcoming/way-to-handle-new-kitten
- คำแนะนำสำหรับการเปลี่ยนอาหารแมวของคุณ. สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.royalcanin.com/th/cats/health-and-wellbeing/a-guide-to-changing-your-cats-food
- What To Feed Kittens [+ Helpful Timeline and Food Examples]. สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.thehonestkitchen.com/blogs/pet-food-ingredients/8-foods-to-feed-your-kitten
